แม้ยังไม่มีผลวิจัยชี้ชัดว่าการกินผักไฮโดรโปนิกส์จะส่งผลให้เกิดมะเร็ง สารที่เกิดจากการสะสมของ “ไนเตรท” อนุมูลของไนโตรเจนที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต แต่หากพืชได้รับมากเกินไปจะสะสมสารไนเตรทไว้ในส่วนของก้านใบและลำต้น ซึ่งสารไนเตรทเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดมะเร็ง ในขณะที่สถาบันการศึกษาหลายแห่งต่างเห็นตรงกันในเรื่องนี้และยังคงหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ มีเพียงหนทางชี้แนะในการเลือกทานผักที่มีไนเตรทสะสมไม่เกิดกว่ามาตรฐานกำหนด โดยค่าวัดมาตรฐานของไนเตรทอยู่ที่ไม่เกิน 3000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งการควบคุมสารไนเตรทต้องขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของผู้ปลูกผักจำหน่ายด้วย
เพื่อความมั่นใจว่าผักไฮโดรโปนิกส์ที่ทานอยู่ปลอดภัย ไม่มีค่าไนเตรทที่สูงเกินไป ลองมาปลูกผักไว้ทานเองกันดีกว่า!
สำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้น ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไว้ทานเองภายในสวนรอบๆบ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ลองมาทำความเข้าใจ
รู้จัก ไฮโดรโปนิกส์ กันก่อน
ไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponic) คือการปลูกพืชในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารปลูกเลี้ยง หรือที่เรียกกันตามท้องตลาดว่า “ปุ๋ยน้ำ” โดยผักที่ปลูกแบบ Hydroponic ส่วนมากจะเป็นผักกินใบ และเป็นพืชระยะสั้นที่เก็บเกี่ยวในระยะเวลาอันรวดเร็ว ที่นิยมปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ได้แก่ เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค ร็อคเก็ต ฟิลเลย์ กรีนคอส บัตเตอร์เฮด ผักกาดหอม ระยะเวลาในเก็บเกี่ยวคือ 40 -60 วัน ส่วนใหญ่นั้นจะใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารในเมนูสลัดผักที่มักจะรับประทานสดๆ
ไม่ใช่แค่ผักกินใบเท่านั้นที่สามารถปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ได้ เพราะยังมี สตรอว์เบอร์รี่ มะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ หัวไชเท้า มันฝรั่ง ก็ปลูกได้เช่นกัน แต่การเลือกชนิดของผักต้องพิจารณาภาชนะที่ใช้ปลูกให้มีขนาดเหมาะสม เพื่อให้พืชได้ปริมาณสารอาหารที่ครบถ้วนและเติบโตได้ด้วย
ไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponic) เป็นที่รู้ๆกันว่าปัจจุบันวิธีการลดน้ำหนัก จะต้องทานผักที่มีประโยนช์สามารถควบคุมน้ำตาลในร่างกายควบคู่กับการออกกำลังกาย และผัดสลัดนี่แหละเป็นที่นิยมยอดฮิตที่สุดในหมู่คนรักสุขภาพ และที่สำคัญยังให้สารอาหารจำพวกวิตามินต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และอร่อยทานง่ายราคาไม่แพงอีกด้วย
ยกตัวอย่างรายชื่อผักไฮโดรโปนิกส์ เช่น
- ผักกาดหอม (LETTUCE) เป็นผักมีใบขนาดใหญ่ปกคลุมลำต้น ตัวลำต้นจะอวบน้ำขนาดเล็ก ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ มีเบตาแคโรทีนและมีวิตามินเอสูง ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาเป็นอย่างดี -ช่วยขับปัสสาวะ ล้างพิษ แก้ไข้ และขับเหงื่อ
- ร๊อกเก็ต (ROCKET) ลักษณะเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ใบเป็นทรงรีเรียวยาว ขอบใบโค้งกลมเรียบ รสชาติกรอบเผ็ดซ่า กลิ่นหอมเฉพาะตัว ยังอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด มีเส้นใย แคลเซียม ช่วยบำรุงสายตา ขับน้ำนม บำรุงตับ -แก้กระหายน้ำ -ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และแก้ท้องผูกอีกด้วย
- กรีนโอีค (GREEN OAK) ลักษณะลำต้นอวบสั้น ใบสีเขียวอ่อน ขอบใบหยัก ประโยชน์ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ สร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคปากนกกระจอก โรคหวัด
-
เรดโอ๊ค (RED OAK) ลักษณะลำต้นอวบสั้น ใบสีแดงเข้มขอบใบกลมมน ก้านใบด้านในเป็นสีเขียว พุ่มกลม มีวิตามินซี วิตามินบี และเบตาแคโรทีน ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยลดอาการเป็นหวัดด้วย
-
ไวลด์ร๊อคเก็ต หรือร็อคเก็ตป่า(WILD ROCKET) ขอบใบหยักแหลม ใบจะเล็กกว่าร๊อคเก็คปกติ กลิ่นฉุนและรสชาติเผ็ดเป็นผักที่ให้แคลลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยวิตามินเอและซีสูง
-
บัตเตอร์เฮด (BUTTERHEAD) ใบมีลักษณะอ่อนนุ่มเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ มีสารอนุมูลอิสระ มีวิตามินนานาชนิด ประโยชน์ป้องกันโรคปากนกกระจอก บำรุงร่างกาย ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยสร้างเม็ดเลือด ลดความดันโลหิตสูง ขับพยาธิ ขับปัสสาวะได้
-
คอสหรือผักกาดหวาน (COS) ลำต้นเป็นก่อ ใบยาวรีซ้อนกันเป็นช่อ มีวิตามินสูง มีฮีโมโกลบินช่วยรักาาโรคโลหิตจาง แก้ท้องผูก แก้ไอ แก้ไข้ แก้ปวดเอว บำรุงสายตา บำรุงร่างกายและตับได้
-
เรดคอร์ล (RED CORAL) มีใบสีแดง ก้านใบด้านใน เป็นสีเขียวอ่อน ขอบใบหยิกเป็นฟันเลื่อย เป็นพุ่มจะคล้ายกรีดคอรัล แต่จะลำต้นเล็กกว่า มีวิตามินซีสูง วิตามินบี อีกทั่งมีไฟเบอร์ที่ช่วยบรรเทาท้องผูก
“ฮักเที่ยว ฮักม่วน ฮักไทย” ถ้าชอบก็กด Like ถ้าใช่ก็กด Share